แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2
1
บริหารจัดการอาคาร: เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์บ้านอย่างไร ให้เย็นทั่วห้อง!?

หลายคนทราบกันดีว่า อาากาศในบ้านเรานั้น ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งปี สำหรับบ้านใครที่มีเครื่องปรับอาหาศ ก็สามารถคลายร้อนได้บ้าง แต่หลายบ้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศก็ต้องทนร้อนไปตลอดทั้งวัน สำหรับคนที่มีแอร์ หลายคก็อาจจะต้องเจอกับค่าไฟที่แพงในแต่ละเดือน ซึ่งต้องแลกกับความเย็นสบาย ยิ่งในหน้าร้อนอากาศก็ยิ่งร้อนจนทำให้แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากความสกปรกของแอร์ หรือตำแหน่งวางแอร์ที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้ความเย็นไม่สามารถกระจายไปได้ทั่วห้อง ดังนั้น การวางตำแหน่งแอร์ที่ดี ก็มีความสำคัญมากเช่นเดียว ยิ่งเราติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมและถูกต้อง นอกจากจะทำให้ห้องเย็นสบายแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจำนวนมหาศาลได้อีกด้วย เพียงแค่เราติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่ดี ซึ่งวันนี้ทางเราจะมาพูดถึงการเลือกตั้งติดตั้งแอร์ที่จะช่วยให้ความเย็นกระจายทั่วทั้งห้อง เพราะการวางตำแหน่งแอร์สามารถทำให้แอร์กระจายได้ทั่วถึง ไม่ทำงานหนัก แถมยังทำให้เราไม่เสียสุขภาพอีกด้วย

สำหรับตำแหน่งในวางแอร์ในห้องนอนเราเราควรวางแอร์ให้ลมแอร์เป่าไปในแนวขวาง ขณะที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนนอนหลับอยู่บนเตียง ร่างกายจะมีอุณหภูมิลดลงจึงต้องวางตำแหน่งแอร์ให้ลมเป่าไปในแนวขวางของเตียงนอน เพื่อไม่ให้ความเย็นปะทะเข้ากับร่างกายโดยตรง วิธีนี้จะทำให้เราไม่ป่วยง่ายและทำให้แอร์เป่าลมเย็นสบายไปทั่วห้องอีกต่างหาก และในการติดตั้งแอร์ เราจะต้องดูรูปทรงห้องหรือลักษณะของห้องว่าห้องเป็นรูปทรงแบบไหน รวมถึงมีขนาดห้องเล็ก กลาง หรือใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่คอนโดหรือบ้านมักจะออกแบบเป็น รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดังนั้นการติดตั้งแอร์ควรเป็นแนวยาว เพื่อให้ความเย็นกระจายได้อย่างทั่วถึงทุกมุมห้องนั่นเอง และที่สำคัญมากที่สุดคือ ควรเลือกตำแหน่งที่ทำความสะอาดได้สะดวก เพราะแอร์ของเราควรได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง นอกจากจะช่วยทำให้แอร์มีความสะอาด ให้เราได้สูดดมอากาศที่บริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟ ดีต่อสุขภาพของคนในบ้านอีกด้วย

ดังนั้น หลังจากวางแอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว เราต้องคำนึงถึงการทำความสะอาด ซึ่งก็ไม่ควรให้ชิดเพดานหรือฝ้ามากเกินไป จะทำให้ถอดชิ้นส่วนออกมาล้างลำบาก และจะทำให้เพดานเกิดความชื้นได้ง่ายจนกลายเป็นเชื้อรา เป็นอันตรายต่อคนในบ้าน นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ข้างใต้แอร์ ต้องสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย พอเวลาช่างมาล้างหรือเราทำความสะอาดเองจะได้ไม่เลอะเทอะสกปรก และอีกข้อหนึ่งที่เราควรจะใส่ใจคือ ตำแหน่งของแอร์ เราไม่ควรอยู่ตรงข้ามกับจุดนั่งหรือจุดนอน โดยตำแหน่งตรงกันข้าม หมายถึง ตำแหน่งที่ผู้อยู่อาศัยต้องใช้งานระยะยาว อาจเป็นการนั่งทำงานทั้งวัน นอนหลับพักผ่อนตลอดค่ำคืน เนื่องด้วยหากลมเย็นของแอร์กระทบกับร่างกายโดยตรงต่อเนื่องยาวนาน มักส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วย ผิวแห้ง ระคายเคืองตา เกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่าย ตัวอย่างเช่น กรณีห้องนอนไม่ควรให้ตรงข้ามเตียงนอน กรณีห้องทำงาน ไม่ควรตรงข้ามกับตำแหน่งโต๊ะทำงาน แต่หากเป็นตำแหน่งที่ใช้งานชั่วคราว เช่น โต๊ะอาหาร, มุมรับแขก หรือโซนอื่น ๆ ที่ใช้งานชั่วคราวจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม การวางตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์ ก็มีความสำคัญ เราควรวางคอมเพรสเซอร์ในบริเวณที่ระบายความร้อนได้ดี เป็นที่โปร่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง

วางตัวเครื่องให้ห่างจากกำแพงออกมาเล็กน้อย ควรวางไว้ที่ระเบียงข้างนอก หากไม่มีระเบียงให้แขวนกับผนังด้านข้าง หรือหาพื้นที่แขวนที่โล่ง ลมจะได้ไม่ตีลมร้อนกลับมา นอกจากนี้ ควรวางบริเวณที่สามารถระบายความร้อนได้ดีและส่งเสียงรบกวนได้โดยไม่รบกวนสิ่งรอบข้าง ยกระดับให้เหนือพื้นดินอย่างต่ำ 10 เซนติเมตร หรือพ้นจากระดับที่น้ำสามารถท่วมถึง และอยู่ในบริเวณที่ซ่อมบำรุงได้ง่าย และสิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์บริเวณที่มีโอกาสติดไฟได้ เพราะน้ำยาแอร์บางชนิดสามารถติดไฟได้บ้างจึงควรเลี่ยงเอาไว้ก่อน จะเห็นได้ว่า เทคนิคของการใช้งานแอร์นั้น มีหลายปัจจัยที่จะต้องคำนึงถึง เพราะทุกอย่างล้วนมีความสัมพันธ์กัน ก็จะช่วยทำให้ประหยัดไฟ ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

ดังนั้น หากบ้านไหนอยากจะติดตั้งแอร์ หรือปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับการจัดการอาคาร ไม่ว่าจะเป็น ระบบทำความเย็น การทำความสะอาด หรืองานช่างต่างๆ สามารถติดต่อทาง เราได้ อยากให้ทุกคนได้อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่มีความสะอาด เพื่อช่วยให้เราได้มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากเชื้อโรคและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทางเรามีบริการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ทุกคนได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาดเพราะเราห่วงใยในความปลอดภัยของลูกค้า เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ เรายังได้มีการคัดสรรสิ่งที่จะนำมาใช้ในการทำความสะอาด เพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่นั้นๆมากที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของการสัมผัสเชื้อโรคด้วย

2
บริการด้านอาหาร: ฟักทองผัดไข่ เมนูเพื่อสุขภาพ ป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจ
 
ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในสาเหตุนั่นก็คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ระมัดระวัง ทั้งความเครียดจากการทำงาน หรือแม้แต่อาหารการกินที่เลือกรับประทาน ซึ่งหลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า อาหารที่เรารับประทานในแต่ละวันนั้น ส่งผลต่อร่างกายของเรา ถ้าหากเรารับประทานอาหารอย่างผิดวิธีและไม่ควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน ก็อาจจะนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆได้เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ ซึ่งล้วนส่งผลต่อร่างกายทั้งสิ้น

ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น เนื่องจากหัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในร่างกาย หากเรามีสุขภาพหัวใจไม่ดี ร่างกายก็จะอ่อนแอลง จนเกิดโรคที่เกี่ยวกับหัวใจได้ง่าย ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพนั่นก็คือ ฟักทองผัดไข่ ซึ่งเป็นอาหารที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจได้ ด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่เต็มไปด้วยประโยชน์ที่จะช่วยบำรุงร่างกายในระบบต่างๆของร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย
 
โดยเมนูฟักทองผัดไข่ ก็มีวัตถุดิบที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก มีเพียงส่วนผสมไม่กี่อย่าง เราก็สามารถทำเมนูเพื่อสุขภาพได้แล้ว โดยจะมีเนื้อฟักทองหั่นบาง ไข่ไก่ กระเทียม น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมันถั่วเหลือง โดยจะเริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมันถั่วเหลืองลงไป เมื่อกระทะร้อนนำกระเทียมใส่ลงไปผัดจนเป็นสีเหลืองหอม

จากนั้นให้ใส่ฟักทองที่เตรียมไว้ลงไปผัด เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วผัดต่อจนเนื้อฟักทองนุ่ม และตักฟักทองขึ้นพักไว้ในจาน ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ พอร้อนให้ใส่ไข่ไก่ลงไปยีจนเกือบสุก และใส่ฟักทองที่พักไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย เพื่อให้ได้รสชาติตามที่ชอบ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

ซึ่งต้องบอกว่า เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่ทำได้ง่ายมาก มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แถมยังรับประทานได้ทั้งครอบครัว เหมาะกับผู้สูงอายุอีกด้วย สำหรับคุณค่าทางสารอาหาร แน่นอนว่า ฟักทอง เป็นหนึ่งในผักที่มีสีเหลืองออกส้ม ที่ช่วยบำรุงและรักษาสายตา มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทีช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน มีไขมันน้อย น้ำตาลน้อย กากใยอาหารสูง พลังงานต่ำ จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ

จากกากใยอาหารที่มีอยู่สูงเหมาะกับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ฟักทอง ยังมีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา

ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี แถมเปลือกฟักทอง ยังมีฤทธิ์ทางยามากมาย หากทานฟักทองทั้งเปลือก จะสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
อย่างไรก็ตาม เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเราเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่สำคัญเราจะต้องดูแลตัวเองให้มากๆ ดื่มน้ำมากๆ และต้องตระหนักถึงความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายของเรา

ดังนั้น เราควรพยายามรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานในแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย  ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด  เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆ ครบในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

3
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ


4
หมอออนไลน์: ตับอักเสบจากไวรัส (Viral hepatitis)

ตับอักเสบจากไวรัส (ไวรัสลงตับ ก็เรียก) หมายถึงการอักเสบของเนื้อตับเนื่องจากการติดเชื้อไวรัส*

ในที่นี้หมายถึง ตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลัน ซึ่งพบเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของอาการดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ที่เกิดขึ้นในเด็กโตและผู้ใหญ่ จนเป็นที่เข้าใจกันว่า โรคดีซ่าน ก็คือ ตับอักเสบจากไวรัส

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในเด็กและคนหนุ่มสาว บางครั้งอาจพบระบาดตามหมู่บ้าน โรงเรียน โรงงาน กองทหาร เป็นต้น

*ตับอักเสบชนิดเฉียบพลัน ส่วนใหญ่เกิดจากไวรัสตับอักเสบ (hepatitis virus) ส่วนน้อยเกิดจากไวรัสชนิดอื่น เช่น คางทูม หัดเยอรมัน เริม ไวรัสไซโตเมกาโล เป็นต้น นอกจากไวรัสแล้ว ตับอักเสบยังอาจเกิดจากแอลกอฮอล์ ยา (เช่น ไอเอ็นเอช ไรแฟมพิซิน คีโตโคนาโซล อีริโทรไมซิน ยาลดไขมันกลุ่มสแตติน เป็นต้น) สมุนไพร (ขี้เหล็ก บอระเพ็ด) ทำให้มีอาการดีซ่าน ตับโต คล้ายโรคตับอักเสบจากไวรัส ซึ่งบางครั้งอาจแยกกันไม่ได้ชัดเจน อาจต้องทำการตรวจเลือดและตรวจพิเศษอื่น ๆ

สาเหตุ

ในปัจจุบันพบว่าไวรัสที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ที่สำคัญมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่

1. เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ (hepatitis A virus/HAV) ซึ่งทำให้เกิดโรคตับอักเสบชนิดเอ (hepatitis A) หรือเดิมเรียกว่า "Infectious hepatitis" สามารถติดต่อโดยทางระบบทางเดินอาหาร กล่าวคือ โดยการกินอาหาร ดื่มนมหรือน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ที่มีเชื้อโรคนี้ (เช่นเดียวกับโรคบิด อหิวาต์ ไทฟอยด์) ดังนั้นจึงสามารถแพร่กระจายโรคได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านเรา ซึ่งการสุขาภิบาลยังไม่ดี บางครั้งอาจพบเป็นโรคระบาดได้

ระยะฟักตัวของตับอักเสบชนิดเอ 15-45 วัน (เฉลี่ย 30 วัน) ซึ่งนับว่าสั้นกว่าชนิดบี

2. เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี (hepatitis B virus/HBV) ซึ่งทำให้เกิดโรคตับอักเสบชนิดบี (hepatitis B) หรือเดิมเรียกว่า "Serum hepatitis"

เชื้อนี้จะมีอยู่ในเลือด และยังอาจพบมีอยู่ในน้ำลาย น้ำตา น้ำนม ปัสสาวะ น้ำอสุจิ น้ำเมือกในช่องคลอด เป็นต้น

เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายโดยทางเพศสัมพันธ์ หรือถ่ายทอดจากมารดาไปยังทารกขณะคลอด หรือหลังคลอดใหม่ ๆ ทำให้ทารกมีเชื้อโรคนี้อยู่ในร่างกายซึ่งสามารถแพร่ให้ผู้อื่นได้

นอกจากนี้ โรคนี้ยังสามารถติดต่อโดยทางเลือด เช่น การให้เลือด การฉีดยา การฝังเข็ม การสักตามร่างกาย การทำฟัน การใช้เครื่องมือแพทย์ที่แปดเปื้อนเลือดของผู้ที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ เป็นต้น

ระยะฟักตัวของตับอักเสบชนิดบี 30-180 วัน (เฉลี่ย 60-90 วัน)

3. เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี (hepatitis C virus/HCV) ซึ่งทำให้เกิดโรคตับอักเสบชนิดซี (hepatitis C) เชื้อชนิดนี้สามารถติดต่อโดยทางเลือด ทางเพศสัมพันธ์ และถ่ายทอดจากมารดาไปยังทารกได้เช่นเดียวกับไวรัสตับอักเสบชนิดบี ระยะฟักตัว 6-7 สัปดาห์

ผู้ติดเชื้อชนิดซี อาจกลายเป็นพาหะหรือโรคตับอักเสบเรื้อรัง และมีภาวะแทรกซ้อนได้เช่นเดียวกับตับอักเสบชนิดบี

นอกจากไวรัสทั้ง 3 ชนิดนี้แล้ว ยังมีไวรัสชนิดอื่น ๆ ได้แก่ เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดอี (hepatitis E virus) ซึ่งสามารถติดต่อโดยทางอาหารการกินเช่นเดียวกับชนิดเอ เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดจี (hepatitis G virus) ซึ่งสามารถติดต่อโดยทางเลือด เช่น การให้เลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในผู้ใช้ยาเสพติด

นอกจากนี้ยังพบเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดดี (hepatitis D virus) ซึ่งมักพบร่วมกับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี พบมากในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ และอาจทำให้อาการตับอักเสบจากเชื้อไวรัสบีมีความรุนแรงมากขึ้น


อาการ

ตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลันจะมีอาการแสดง ดังนี้

ระยะนำ ผู้ป่วยมักมีอาการอื่น ๆ นำมาก่อนจะมีอาการตาเหลืองประมาณ 2-14 วัน ด้วยอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อิดโรย คลื่นไส้ อาเจียน และเป็นไข้ (ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส)

บางรายอาจมีอาการปากคอจืด และเหม็นเบื่อบุหรี่อย่างมาก

บางรายอาจมีอาการปวดเสียดหรือจุกแน่นแถวลิ้นปี่หรือชายโครงขวา อาจมีอาการถ่ายเหลวหรือท้องเดิน หรือมีอาการเป็นหวัด เจ็บคอ ไอ คล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ หรืออาจมีอาการปวดตามข้อมีลมพิษ ผื่นขึ้น

ก่อนมีอาการตาเหลือง 1-5 วัน ผู้ป่วยจะปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้มเหมือนขมิ้น และอุจจาระสีซีดกว่าปกติ ระยะนี้มักจะพบว่าตับโตและเคาะเจ็บ

ระยะตาเหลือง เมื่อมีอาการตาเหลือง อาการต่าง ๆ จะเริ่มทุเลา และไข้จะลดลงทันที (หากยังมีไข้ร่วมกับตาเหลืองอีกหลายวัน ควรนึกถึงสาเหตุอื่น (ตรวจอาการดีซ่าน/ตาเหลือง) ตาจะเหลืองเข้มมากที่สุดในสัปดาห์ที่ 1 และ 2 แล้วจะค่อย ๆ จางหายไปใน 2-4 สัปดาห์ โดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะมีอาการตาเหลืองอยู่ประมาณ 3-5 สัปดาห์ และน้ำหนักตัวอาจลดไป 2-3 กิโลกรัม

ในขณะที่ตาเหลืองเริ่มจางลง ผู้ป่วยจะสังเกตเห็นอุจจาระกลับมีสีเข้มเหมือนปกติ และปัสสาวะสีค่อย ๆ จางลง ระยะนี้ตับยังโตและเจ็บ แต่จะค่อย ๆ ลดน้อยลง ต่อมน้ำเหลืองที่หลังคอและม้ามอาจโตได้

ระยะฟื้นตัว หลังจากหายตาเหลืองแล้ว ผู้ป่วยจะรู้สึกสบายขึ้น แต่ยังอาจรู้สึกเหนื่อยล้า ตับจะยังโตและเจ็บเล็กน้อย กินเวลาประมาณ 2-6 สัปดาห์ ส่วนใหญ่อาการจะหายสนิทภายใน 3-4 เดือน หลังมีอาการแสดงของโรค

ผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการตาเหลือง (ดีซ่าน) ให้เห็น หรือคลำตับไม่ได้ มีเพียงอาการเพลียคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือปวดเสียดชายโครงขวา ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนมากมักจะหายเป็นปกติโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นตับอักเสบชนิดเอ

ส่วนน้อยเท่านั้นที่อาจมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งจะพบในผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบชนิดบีหรือซี และมักเกิดในผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีโรคอื่น ๆ (เช่น หัวใจวาย เบาหวาน มะเร็ง โลหิตจางรุนแรง เป็นต้น) อยู่ก่อน

โรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงกับทำให้เสียชีวิตในเวลารวดเร็ว (ซึ่งพบได้น้อยมาก) ได้แก่ ตับอักเสบชนิดเร็วร้าย (fulminant hepatitis) ซึ่งเซลล์ของตับถูกทำลายจนเนื้อตับเสียเกือบทั้งหมด ผู้ป่วยจะมีอาการตาเหลืองจัด บวม และหมดสติ

ประมาณร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบชนิดบี และร้อยละ 75 ของผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบชนิดซี อาจกลายเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง (chronic hepatitis)* ซึ่งจะมีอาการอักเสบของตับอยู่นานเกิน 6 เดือน ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร ท้องอืดเฟ้อ ดีซ่าน หรือไข้ต่ำ ๆ บางรายอาจมีอาการของตับแข็ง แต่บางรายอาจไม่มีอาการแสดงใด ๆ เลยก็ได้ จะวินิจฉัยได้แน่ชัดด้วยการตรวจเลือดพบว่ามีเอนไซม์ตับ ได้แก่ เอเอสที (AST)** และเอแอลที (ALT)*** สูงถึง 100-150 หน่วย และพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซีร่วมด้วย หากปล่อยปละละเลยไม่ได้ดูแลรักษา อาจเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับในระยะยาวได้

*โรคตับอักเสบเรื้อรัง (chronic hepatitis) นอกจากเกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีแล้ว ยังอาจเกิดจากยา (เช่น เมทิลโดพาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง ไอเอ็นเอชที่ใช้รักษาวัณโรค) หรือเกิดจากปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง หรือออโตอิมมูน (autoimmume) ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน

ผู้ป่วยบางรายอาจกลายเป็นโรคตับแข็ง ตับวาย หรือมะเร็งตับ ในระยะ 5-10 ปีต่อมาได้

**ย่อมาจาก aspartate aminotransferase ซึ่งเดิมเคยเรียกว่า SGOT (serum glutamic-oxaloacetic transaminase) ค่าปกติไม่เกิน 40 หน่วย

***ย่อมาจาก alanine aminotransferase ซึ่งเดิมเคยเรียกว่า SGPT (serum glutamic pyruvic transaminase) ค่าปกติไม่เกิน 35 หน่วย

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย โดยตรวจพบอาการตาเหลือง ตัวเหลือง คลำได้ตับโต ซึ่งมีลักษณะนุ่ม ผิวเรียบ กดเจ็บเล็กน้อย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการเจาะเลือดทดสอบการทำงานของตับ (liver function test) ซึ่งจะพบว่ามีระดับเอนไซม์ตับ (AST‚ ALT) สูงกว่าปกติเป็นสิบ ๆ เท่า (บ่งชี้ว่ามีการอักเสบของเซลล์ตับ) ตลอดจนระดับบิลิรูบิน (bilirubin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ตัวเหลืองตาเหลือง) สูง

นอกจากนี้ยังอาจต้องเจาะเลือดตรวจดูชนิดของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรค ว่าเป็นตับอักเสบชนิดเอ บี ซี หรือชนิดอื่น


การรักษาโดยแพทย์

หากสงสัย จะทำการชันสูตรเพิ่มเติมโดยการตรวจเลือด เมื่อตรวจพบว่าเป็นตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลัน จะให้การรักษาดังนี้

1. ถ้าพบในเด็กหรือคนหนุ่มสาว ซึ่งอาการโดยทั่วไปดี กินข้าวได้ ไม่ปวดท้องหรืออาเจียน แพทย์จะให้คำแนะนำผู้ป่วยในการปฏิบัติตัวต่าง ๆ

ส่วนยาไม่จำเป็นต้องให้ ยกเว้นการให้ยาบรรเทาอาการ เช่น ถ้าคลื่นไส้ อาจให้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ถ้ากินไม่ได้อาจฉีดกลูโคสหรือให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ เป็นต้น

2. ถ้าอาการตาเหลืองไม่จางลงใน 2 สัปดาห์ หรือมีไข้สูง อ่อนเพลียมาก น้ำหนักลดมาก ปวดท้องมากหรืออาเจียนมาก หรือพบในผู้สูงอายุ แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม (เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์ เป็นต้น) และให้การรักษาตามภาวะผิดปกติหรือสาเหตุที่ตรวจพบ บางกรณีแพทย์อาจจำเป็นต้องรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล

3. สำหรับโรคตับอักเสบจากไวรัส ในการติดตามผลการรักษา จะนัดตรวจเลือดเป็นระยะ ๆ (ประมาณทุก 2-4 สัปดาห์) จนกระทั่งแน่ใจว่าระดับเอนไซม์เอเอสทีและเอแอลทีลงสู่ปกติซึ่งแสดงว่าหายดีแล้ว

ผลการรักษา ส่วนใหญ่จะหายดี (ตาหายเหลือง หายเพลีย กินข้าวได้มาก และผลเลือดเป็นปกติ) ภายใน 3-16 สัปดาห์

ส่วนน้อย (โดยเฉพาะในรายที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซี) อาจเป็นเรื้อรังนานเกิน 6 เดือน เรียกว่า ตับอักเสบเรื้อรัง แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการตรวจชิ้นเนื้อตับ (liver biopsy) และการตรวจเลือดเพื่อดูสาเหตุ ความรุนแรง และภาวะแทรกซ้อน (เช่น ตับแข็งหรือมะเร็งตับ)

สำหรับไวรัสตับอักเสบชนิดบี แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัส เช่น ลามิวูดีน (lamivudine)   

สำหรับไวรัสตับอักเสบชนิดซี แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัส เช่น ไรบาไวริน (ribavirin), ยาสูตรผสม sofosbuvir/velpatasvir เป็นต้น   

บางรายอาจจำเป็นต้องฉีดอินเทอร์เฟอรอน (interferon) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านไวรัสและลดการอักเสบของตับร่วมด้วย แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาติดตามการรักษาเป็นระยะ (เช่น ทุก 3 เดือน) และให้ยาต่อเนื่องกันนานเป็นแรมปี หรือจนกว่าจะหายขาด


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง อ่อนเพลีย หรือปวดเสียดใต้ชายโครงขวา เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นตับอักเสบจากไวรัส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

    พักผ่อนอย่างเต็มที่ ห้ามทำงานหนักจนกว่าจะรู้สึกหายเพลีย
    ดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณวันละ 10-15 แก้ว
    กินอาหารพวกโปรตีน (เช่น เนื้อ นม ไข่ ซุบ ถั่วต่าง ๆ) ให้มาก ๆ ส่วนอาหารมันให้กินได้ตามปกติ ยกเว้นในรายที่กินแล้วคลื่นไส้อาเจียนให้งด
    ถ้าเบื่ออาหารให้ดื่มน้ำหวานหรือน้ำตาลกลูโคส ถ้ากินอาหารได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำหวานหรือกลูโคสให้มากขึ้น อาจทำให้น้ำหนักเกินได้
    ถ้ามีอาการท้องอืดหรือคลื่นไส้ ควรงดอาหารมัน
    แยกสำรับกับข้าวและเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากผู้อื่น
    ล้างมือหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง
    งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2. ดูแลรักษาและกินยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง

3. ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

4. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    ปวดท้องมาก คลื่นไส้อาเจียน หรือกินไม่ได้
    อ่อนเพลียมากขึ้น หรือตัวเหลืองตาเหลืองมากขึ้น
    อาการไม่ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์
    หลังกินยาที่แพทย์แนะนำ มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

1. สำหรับตับอักเสบชนิดเอ ควรกินอาหารสุกที่ไม่มีแมลงวันตอม ดื่มน้ำสะอาด ถ่ายลงส้วม ล้างมือด้วยน้ำสบู่ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนเปิบข้าว และหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง   

ปัจจุบันมีวัคซีนที่ใช้ป้องกันตับอักเสบชนิดเอ แนะนำให้ฉีดแก่สมาชิกในครอบครัวผู้ป่วย ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ผู้ประกอบการเกี่ยวกับอาหาร บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเมื่อมีการระบาดของโรค (เช่น นักเรียน ทหาร เป็นต้น) โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน

สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปี ควรตรวจเลือดก่อน หากพบว่ามีภูมิคุ้มกันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีด

2. สำหรับตับอักเสบชนิดบีและซี ควรปฏิบัติดังนี้

    ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยา หรือให้น้ำเกลือโดยไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นต้องฉีดยา ควรเลือกใช้เข็มและกระบอกฉีดยาที่ผ่านกรรมวิธีทำให้ปลอดเชื้อ
    ในการให้เลือดควรใช้เลือดที่ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี โดยการตรวจเช็กเลือดของผู้บริจาคทุกราย

    หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคม เข็มฉีดยา มีดโกนหนวด และแปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น และห้ามใช้อุปกรณ์ในการสักร่วมกับผู้อื่น

    แพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ควรระมัดระวังในการสัมผัสถูกเลือดของผู้ป่วย เช่น สวมถุงมือขณะเย็บแผล ผ่าตัด หรือสวนปัสสาวะผู้ป่วย
    วัคซีนป้องกันตับอักเสบชนิดบี สำหรับทารกแรกเกิดทุกคน สถานบริการสุขภาพของรัฐจะฉีดวัคซีนชนิดนี้โดยไม่คิดมูลค่าตั้งแต่วันแรกที่เกิด วัคซีนชนิดนี้จะฉีดให้ 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 จะห่างจากครั้งแรก 1-2 เดือน และ 6 เดือนตามลำดับ
     

สำหรับผู้ใหญ่ก่อนฉีดวัคซีนชนิดนี้ควรตรวจเลือดเสียก่อน หากพบว่าเป็นพาหะหรือมีภูมิคุ้มกันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีด

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลัน ห้ามดื่มแอลกอฮอล์นาน 1 ปี เพราะอาจทำให้โรคเรื้อรังหรือกำเริบใหม่ได้

2. ระหว่างที่เป็นโรคควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อาจมีพิษต่อตับ เช่น พาราเซตามอล เตตราไซคลีน ไอเอ็นเอช อีริโทรไมซิน ยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นต้น

3. เข็มฉีดยาที่ใช้กับผู้ป่วยโรคนี้ควรทิ้งไปเลย ห้ามนำไปใช้ฉีดผู้อื่นต่อ เพราะอาจแพร่เชื้อได้

4. ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบไม่จำเป็นต้องกลายเป็นโรคตับอักเสบเสมอไปทุกราย บางรายอาจมีเชื้ออยู่ในร่างกายเพียงชั่วคราวโดยไม่เป็นโรค แล้วเชื้อหายไปได้เอง

บางรายอาจมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีอยู่ในร่างกายโดยไม่มีอาการแสดงแต่อย่างใด แต่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เรียกว่า พาหะ (carrier) ซึ่งสามารถตรวจพบจากการตรวจเลือดเช็กสุขภาพ (ดังนั้นจึงแนะนำให้หมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นระยะ)

บางรายหลังได้รับเชื้ออาจมีอาการเป็นไข้ อ่อนเพลียคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือคลื่นไส้ อาเจียน จุกเสียดท้อง โดยไม่มีอาการตาเหลืองก็ได้

5. ผู้ที่เป็นพาหะของโรคตับอักเสบชนิดบีหรือซี (พบเชื้อในกระแสเลือดโดยไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด) ควรหาทางพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายได้ตามปกติเช่นคนทั่วไป อย่าอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก งดบริจาคโลหิต ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคนี้) และหมั่นตรวจเลือดดูเชื้อและทดสอบการทำงานของตับ (liver function test) รวมทั้งการตรวจหาสารแอลฟาฟีโตโปรตีน (alpha-fetoprotein) เพื่อค้นหามะเร็งตับระยะแรกเริ่ม ทุก 3-6 เดือน

ผู้ที่เป็นพาหะอาจเกิดโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับแทรกซ้อน โดยมากมักจะเกิดกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสบีหรือซีจากมารดามาตั้งแต่เกิด แล้วเชื้อจะอยู่ในร่างกายจนย่างเข้าวัย 40-50 ปี ก็อาจเกิดผลแทรกซ้อนตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ หรือตรากตรำงานหนัก

6. ผู้ที่เป็นตับอักเสบจากไวรัสชนิดเรื้อรัง ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ มักตรวจพบจากการตรวจเลือด เช็กสุขภาพ ควรติดตามรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังการเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ซึ่งหากพบระยะแรกเริ่ม ก็สามารถรักษาได้ผลดี มีอายุยืนยาวได้

7. ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคหรือเป็นพาหะของโรคตับอักเสบชนิดบี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นสามีหรือภรรยาและบุตรควรตรวจเลือด ถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกันโรคควรฉีดวัคซีนป้องกัน

8. หญิงตั้งครรภ์ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจเลือดดูว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือไม่ ถ้าพบว่ามีเชื้อ ทารกที่เกิดมาทุกคนจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบจากไวรัสชนิดบี 3 ครั้ง ตั้งแต่แรกเกิด และเมื่ออายุครบ 1 และ 6 เดือน และในรายที่มารดาตรวจพบ HBeAg เป็นผลบวก ทารกจะต้องได้รับการฉีดสารอิมมูนโกลบูลิน (hepatitis B immune globulin/HBIG) ร่วมกับวัคซีนดังกล่าวจะช่วยป้องกันมิให้ทารกติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้

5
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
เรา
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



6
motor show 2025: Xpeng G6 ทำไมฉลาดขนาดนี้! รถไฟฟ้างบ 1 ล้านกลาง ๆ จอดเองได้โดยไม่ต้องมีคนขับ! กูรูช้าง พาเจาะลึกออปชั่นสุดล้ำ

XPENG G6 รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมขนาดใหญ่เทคโนโลยีเต็มคัน ขุมพลังแรง แถมฉลาดขนาดนี้ ในงบ 1 ล้านกลาง ๆ จอดเองได้โดยไม่ต้องมีคนขับ! นำเข้าโดย เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย XPENG อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย Standard Range ราคา 1,439,000 บาท และ Long Range ราคา 1,599,000 บาท ในครั้งนี้ กูรูช้าง-สินธนุ จำปีศรี จะมาพูดให้ฟังว่า รถอะไรทำไมฉลาดขนาดนี้! และยังจะพาเจาะลึกออปชั่นสุดล้ำ

 
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง XPENG
Xpeng X9 กับ 3 ฟังก์ชันสุดว้าว ปรับราคาใหม่ 2.749 ล้านบาท!!!!
Xpeng X9 รถเอ็มพีวีไฟฟ้าทรงสปอร์ตอัจฉริยะ พร้อมจัดเต็มระบบ AI ล้ำสมัย เคาะราคาแล้วในงาน Motor Expo 2024 ที่ 2,790,000 บาท
ชมคันจริง Xpeng G6 ท้าชน Tesla เปิดราคาเริ่มต้น 1.439 ล้านบาท!!!!
 
ดีไซน์ล้ำสมัยและภายในที่หรูหรา

XPENG G6 มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ผสมผสานความล้ำสมัยด้วยไฟหน้าแบบ LED และเส้นสายที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม ด้านในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ
XPENG G6 มาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่ขั้นสูงมากมาย เช่น
XPILOT ระบบช่วยขับอัตโนมัติที่รองรับการขับขี่บนทางหลวงและในเมือง
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ทำให้การเข้าจอดง่ายและปลอดภัย
กล้องและเซ็นเซอร์รอบคัน เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และลดความเสี่ยงในการชน
สมรรถนะทรงพลังและช่วงการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
XPENG G6 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง (ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ทุกรุ่นย่อย) ให้การเร่งความเร็วที่ตอบสนองได้ดี พร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงที่ให้ระยะทางขับขี่มากกว่า 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางไกล ดังนี้

รุ่น standard Range
มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 800V Technology (LFP) ขนาด 66 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.9 วินาที
Top Speed ความเร็วสูงสุด 200 km/h
วิ่งระยะทางสูงสุด 505 km. (NEDC)

รุ่น Long Range
มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 285 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 800V Technology (NMC) ขนาด 87.5 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.7 วินาที
Top Speed ความเร็วสูงสุด 200 km/h
วิ่งระยะทางสูงสุด 625 km. (NECD)
ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ทุกรุ่นย่อย
ระบบกันสะเทือนและการขับขี่ที่นุ่มนวล
XPENG G6 มาพร้อมกับ ระบบกันสะเทือนถุงลมอัจฉริยะ ที่สามารถปรับระดับได้ ทำให้การขับขี่ราบรื่นแม้บนถนนที่ขรุขระ นอกจากนี้ยังมีโหมดขับขี่ที่หลากหลาย ให้ผู้ขับสามารถเลือกได้ตามสภาพถนนและความต้องการ
 
ฟังก์ชันความบันเทิงและการเชื่อมต่อ
XPENG G6 รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายผ่านจอสัมผัสขนาดใหญ่ รวมถึงรองรับคำสั่งเสียงอัจฉริยะเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่

สรุป Xpeng G6 โดย กูรูช้าง
XPeng G6 คันที่ กูรูช้าง ได้นำมาขับในครั้งนี้นั้นเป็นรุ่น Long Range ราคา 1,599,000 บาท เป็นรถที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเรื่องไซด์ใหญ่โตสมรรถนะเกินตัวเทคโนโลยีเยอะขับง่าย ยิ่งระบบสั่งจอดรถระยะไกลด้วยแอปฯ Xpeng ให้เลื่อนเข้า-ออก ที่จอดแคบๆ  หรือระบบช่วยจอดก็สุดล้ำ วัสดุภายในค่อนข้างพรีเมียมโดยเฉพาะรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ใหญ่วิ่งได้ไกล ด้วยราคา 1.599 ล้านบาท ไม่นับว่าเกินตัวเลย ตอบโจทย์ได้ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกล หากคุณกำลังมองหารถ EV ที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย XPENG G6 ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

7
จัดฟันเด็ก ช่วยแก้ไขความผิดปกติของฟันก่อนที่จะสายไป
 
การดูแลสุขภาพช่องปากส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดี การให้ความรู้และการป้องกันในระหว่างปีแรกของชีวิตต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งผู้เชี่ยวชาญและการร่วมมือของพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่จะดูแลฟันของลูกน้อยตั้งแต่ยังเป็นทารก เพราะในเรื่องของการเลี้ยงดูก็มีความสำคัญต่อสุขภาพช่องปากและฟันเช่นกัน ดังนั้น การเริ่มต้นที่จะมีสุขลักษณะที่ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมของเด็กเอง จึงไม่ใช่สิ่งง่ายเลยในการเปลี่ยนแปลง บทบาทหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะช่วยส่งเสริมและปลูกฝังทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำ ไม่ควรมองข้าม

เพราะสุขอนามัยเกี่ยวกับช่องปากและฟันของเด็กนั้น จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต และถ้าหากเด็กมีปัญหาเกี่ยวกับฟันตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อเข้ารับการจัดฟันในเด็ก โดยการจัดฟันในเด็กนั้นจะสามารถช่วยแก้ไขความผิดปกติของฟัน และสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบ หากเด็กมีปัญหาฟันที่จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการจัดฟัน  เพราะการจัดฟันในเด็ก ทำเพื่อแก้ไขความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ

ในระหว่างที่ขากรรไกรของเด็กอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตจะช่วยแก้ไขปัญหาบางอย่างได้ทันท่วงที ก่อนที่เขาจะโตขึ้น  เช่น กรณีขากรรไกรบนเล็กหรือแคบ การจัดฟันในเด็กจะช่วยลดปัญหาได้อย่างมาก เพราะยังเป็นช่วงที่เพดานปากหรือกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตอยู่ และสามารถขยายได้  ซึ่งหากไปทำในวัยผู้ใหญ่ขากรรไกรจะหยุดเจริญเติบโตแล้วจึงไม่สามารถแก้ไขปัญหา ขากรรไกรเบี้ยว คางยื่น หรืออื่นๆ ได้ ซึ่งอาจต้องใช้วิธีที่ยุ่งยากมากขึ้น เช่น การผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน
 
วันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ที่จะช่วยแก้ไขความผิดปกติของฟันก่อนที่จะสายไป  การที่พ่อแม่พาเด็กเข้าพบทันตแพทย์บ่อยๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างทันเวลา หากทันตแพทย์ ตรวจพบความผิดปกติของการเรียงตัวของฟันแต่เนิ่นๆ และจะได้วางแผนเวลา และวิธีการรักษาที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับการทำฟัน หากจำเป็นต้องใส่เครื่องมือจัดฟันเมื่อไหร่ เด็กก็จะพร้อมที่จะรับการรักษาได้ทันที จะเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีให้เด็กไปในตัว
การจัดฟันในเด็กยังมีประโยชน์กับเด็กที่มีพฤติกรรมการดูดนิ้ว ดูดขวดนม ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหากล้ามเนื้อบนใบหน้า การจัดฟันในเด็กจึงสามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ

ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งนอกจากนี้ ความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นในเด็กเล็ก เช่น ขากรรไกรบน-ล่างไม่สมดุลกัน ฟันหน้าล่างคร่อมฟันหน้าบน อาจเริ่มรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความผิดปกติที่จะมีมากขึ้น ในขณะที่ยังมีการเจริญเติบโตของในหน้าและขากรรไกร
การจัดฟันในเด็กเล็กจะเป็นการใส่เครื่องมือเพื่อกระตุ้นให้การเจริญเติบโตของขากรรไกรบนและล่างได้สัดส่วน จึงทำให้เด็กมีโครงสร้างของใบหน้าที่เข้าที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรที่จะมองข้ามหรือละเลยปัญหาเล็กๆเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก เพราะอย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่า ถ้าหากปล่อยไว้ อาจจะทำให้เด็กมีปัญหาฟันไปตลอดชีวิตได้

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถพาบุตรหลานของท่านมาเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันเบื้องต้นได้ที่คลินิกเพระทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมในเด็ก มีประสบการณ์ในวงการทันตกรรมมาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะทางเราให้คำปรึกษาอย่างถูกต้อง สามารถแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้เด็กได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เด็กได้ทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธีและสะอาดมากที่สุด เพราะเราใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของลูกค้าทุกคน เพื่อที่จะได้มีช่องปากและฟันที่สะอาด มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

8
ปล่อยรถผู้บริหาร Volvo S60 Recharge T8 R-Design Plug in Hybrid MY 2022

วอลโว่ Volvo S60 Recharge Plug-in Hybrid R-Design ปี 2022
Volvo S60 Recharge Plug-in Hybrid AWD R-DESIGN ไฟหน้าแบบ LED รูปทรง T-shape Full-LED Active High Beam Illumination Active Bending Light ปรับตามบุคลิกของแต่ละคน ซึ่งระบบจะตั้งค่าเครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัย เบรก ระบบควบคุมการทรงตัว และฟังก์ชั่นการเปิด/ปิดเครื่องยนต์ โหมดเหล่านี้ได้แก่ Comfort, Dynamic และ Eco รวมทั้งโหมด Individual มาพร้อมระบบกล้อง 360 , Park Assist Pilot ระบบเสียง Harman Kardon Premium Sound ไปยังลำโพง 14 ตัวผ่านช่องกระจายเสียง 12 ช่อง ระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติหรือ Automatic Level Adjustment และอัลกอริทึมพิเศษจะปรับระดับเสียงที่ส่งออกมาเพื่อชดเชยและกลบเสียงรบกวนจากภายนอก รองรับ Apple CarPlay ให้คุณเชื่อมต่อกับ iPhone นอกจากนี้ยังรองรับ Android Auto ระยะทางวิ่งสูงสุดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Pure mode 90.2* (NEDC) อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 71.4 กิโลเมตรต่อลิตร*

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 19 ก.พ. - 28 ก.พ. 2568
Warranty 15/3/2022 ถึง 15/3/2025 (VPSP 3/0/1) หรือ <100,000 กิโลเมตร
High voltage battery warranty expire 15/3/2020 หรือ <150,000 กิโลเมตร

ราคาพิเศษ 1,690,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์             Volvo
   รุ่น                 วอลโว่ Volvo S60 Recharge Plug-in Hybrid R-Design ปี 2022
   ประเภทรถ        รถเก๋ง 4 ประตู, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว         2022


9
มอเตอร์โชว์ อาวดี้ Q6 e-tron Performance วิ่งไกล 714 กิโลเมตร

อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุด Q6 e-tron Performance พรีเมียมเอสยูวีเทคโนโลยีไฟฟ้า 100% Mid-size SUV ที่ขนาดลงตัวที่สุด มาตรฐานใหม่ของรถไฟฟ้า generation ใหม่ทุกรุ่นต่อจากนี้ และยังเป็นรุ่นแรกของอาวดี้ที่ผลิตบนแพลตฟอร์มรถไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่เรียกว่า Premium Platform Electric (PPE) ซึ่งได้รับการพัฒนาและยกระดับในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น ระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น การชาร์จที่ใช้เวลาน้อยลง รวมไปถึงด้านการ อกกแบบ เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในรถ ทั้งภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น และพื้นที่เก็บสัมภาระที่จุของได้มากขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ครั้งแรกกับ New design philosophy นิยามดีไซน์ภายในที่เป็น Digital stage ของหน้าจอที่เป็นรุ่นใหม่ 3 จอ ซึ่งมีความยาวต่อเนื่องตั้งแต่ฝั่งประตูคนขับฝั่งขวาจนสุดประตูผู้โดยสารฝั่งซ้าย

ไฮไลท์ของ Q6 e-tron Performance
•    ครั้งแรกกับเทคโนโลยี Active digital light signature ไฟหน้า Matrix LED กว่า 61 ดวงที่สามารถปรับการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนการแสดงผลได้ถึง 8 แบบ มาพร้อมกับ Light staging ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
•    New design philosophy นิยามของดีไซน์ภายในที่เป็น Digital stage ครั้งแรกกับระบบสัมผัสของหน้าจอ New generation MMI
•    Curved MMI panoramic display หน้าจอระบบสัมผัสประกอบไปด้วย 11.9 นิ้ว MMI virtual cockpit plus และ 14.5 นิ้ว MMI touch display ที่มีความยาวตั้งแต่ฝั่งคนขับไปจนถึงฝั่งคนนั่ง และหันเข้าหาคนขับเพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวก
•    10.9 นิ้ว MMI front passenger display หน้าจอส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าที่สามารถควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ ได้โดยไม่รบกวนผู้ขับขี่
•    Smart door panel แผงควบคุมอัจฉริยะเจเนอเรชั่นใหม่ ควบคุมไฟหน้ารถ การปรับกระจก การบันทึกตำแหน่งที่นั่งผู้ขับขี่ และที่ล็อคประตูฝั่งคนขับ
•    ระยะทางวิ่งไฟฟ้าไกลที่สุดของรถไฟฟ้าอาวดี้ทุกรุ่น 714 กิโลเมตร (NEDC) และ 641 กิโลเมตร (WLTP)
•    ใช้ระยะเวลาในการชาร์จ 10-80% ภายใน 22 นาที (260 kW DC charging)
•    Hidden frunk space ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าขนาด 64 ลิตร และ Rear luggage space พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเมื่อพับเบาะ จุได้ถึง 1,529 ลิตร
•    e-tron sport sound ระบบเสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์แบบสปอร์ต

ดีไซน์ภายนอกยังมีความสปอร์ต ล้ำสมัย และมีขนาดที่ลงตัว ดีไซน์กระจังหน้าใหม่พร้อมโลโก้ 2 มิติ ชุดแต่งสปอร์ต S line รอบคัน และช่วงล่างแบบ S Sport พร้อมล้อลาย 5-double-arm Falx rims ขนาด 20 นิ้ว

เพิ่มความล้ำสมัยและความปลอดภัยด้วย Projection light ที่ส่องไฟลวดลายกราฟฟิกต้อนรับลงบนพื้นจากกระจกมองข้าง สะดวกสบายในการชาร์จไฟ ด้วยช่องชาร์จไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งสองข้างของตัวรถ

Q6 e-tron Performance ใช้ระบบควบคุมการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตำแหน่ง กำลังสูงสุดที่ 322 แรงม้า (ในโหมด Launch control) แรงบิด 485 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) DC maximum charging capacity 260 kW ความจุพลังงานแบตเตอรีไฟฟ้าแรงสูง100 kWh มีอัตราเร่งสูงสุดจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.

ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่

•    ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน และรักษาระยะห่างด้านหน้า (Adaptive cruise control with Stop&Go function)
•    ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก (Front cross traffic assist)
•    ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (Rear cross-traffic assist)
•    ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane departure warning)
•    ระบบช่วยหักเลี้ยวพวงมาลัยในกรณีฉุกเฉิน (Swerve assist) และ ระบบช่วยเบรกเมื่อเลี้ยวรถที่ทางแยก (Turn assist)
•    ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane change assist warning)
•    ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ (Exit warning)
•    ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Front emergency brake assist)
•    ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง (Proactive occupant protection, front, side and rear)
•    กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround cameras)
•    เซ็นเซอร์หน้า-หลัง พร้อมเส้นช่วยในการนำรถเข้าจอด (Parking aid plus with distance display)

Q6 e-tron Performance เปิดตัวด้วยราคา 4,699,000 บาท มี 5 สี
 Manhattan grey, metallic
Glacier white, metallic
Mythos black, metallic
Ascari blue, metallic
Plasma blue, metallic

Audi เป็นรถยนต์นำเข้าประกอบนอกทั้งคัน คุณภาพมาตรฐานเยอรมันทุกรุ่น ลูกค้าที่ออกรถอาวดี้ทุกรุ่นได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รถไฟฟ้า e-tron และ รถ Plug-in Hybrid TFSI e อาวดี้ใหม่ทุุกรุ่น รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
ฟรี บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ฟรี บริการยก/ลากรถไปยังศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Audi Thailand ภายในระยะทาง 50 กิโลเมตร หรือไปยังสถานที่อื่นที่ลูกค้าต้องการภายในระยะทาง 35 กิโลเมตร (ส่วนต่างคิดค่าบริการกิโลเมตรละ 25 บาท ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบค่าบริการส่วนต่าง)
ฟรี บริการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่เกิดรถเสียฉุกเฉิน
ฟรี บริการรับกุญแจสำรอง กรณีล็อครถโดยไม่ตั้งใจ เจ้าหน้าที่จะประสานงานเพื่อนำกุญแจสำรองมาให้ ณ จุดเกิดเหตุภายในระยะทาง 20 กิโลเมตร (กรณีที่เกินกว่า 20 กิโลเมตร คิดค่าบริการกิโลเมตรละ 25 บาท กรณีที่ต้องการใช้ช่างกุญแจที่มีความชำนาญเพื่อหาวิธีการเข้าไปในรถนั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อน ค่าใช้จ่ายสาหรับช่างกุญแจจะรวมอยู่ในบริการ)

10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
เรา
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


11
ปล่อยรถผู้บริหาร Volvo XC90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright รับส่วนลดเพิ่มอีก 1 แสน

วอลโว่ Volvo XC90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ปี 2023
Volvo XC90  Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ขุมพลัง T8 Twin Engine ์Drive E เบนซิน 2 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ และมอเตอร์ไฟฟ้า อัพเกรดด้วยระบบทำกรองอากาศขั้นสูง Advanced Air Cleaning (AAC) พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับและวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5, ระบบเสียงระดับโลกจาก Bowers &Wilkins Premium, แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 6 มี.ค. - 31 มี.ค. 2568
รับส่วนลดเพิ่มอีก 100,000 บาท เมื่อแจ้งว่ามาจาก Checkraka
Volvo Premium Service Package - Pro (VPSP Pro) - ถึง 31/1/2029

ราคาพิเศษ 3,490,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                 Volvo
   รุ่น                     วอลโว่ Volvo XC90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright ปี 2023
   ประเภทรถ            รถอเนกประสงค์ SUV, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว             2023


12
จัดฟันเด็ก มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

เด็กๆหลายคนมีปัญหาที่เกี่ยวกับช่องปากและฟัน ซึ่งในวัยเด็กนั้นการรับประทานอาหารถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากในวัยเด็ก หลายคนคงจะชื่นชอบอาหารที่มีรสหวานชอบรับประทานขนม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดฟันผุที่เป็นปัญหาที่เด็กหลายคนมักต้องเจอและถ้าหากผู้ปกครองไม่คอยดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่านแล้ว ก็เสายงที่จะก่อให้เกิดการสูญเสียฟันได้


ซึ่งการสูญเสียฟันนั้นจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันทำให้เกิดปัญหาของรูปร่างของฟันของเด็กและจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา โดยอาจจะส่งผล แก่ฟันบริเวณข้างเคียงด้วย เช่น ปัญหาการเกิดการสบฟันที่ผิดปกติ ฟันห่าง ฟันล้ม ฟันซ้อนเก ซึ่งมีปัญหามาจากการเกิดฟันผุจนถึงขั้นการสูญเสียฟัน ในวัยเด็กควรจะดูแลเขาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้มาก เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดฟันผุในเด็ก แต่ในปัจจุบันนี้ การรักษาสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กมีด้วยกันหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในเด็ก

     
ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันในเด็กนั้นเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่เด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ7- 15 ปี เพราะเด็กในวัยนี้อยู่ในช่วงที่ฟันแท้ขึ้นครบแล้วและอยู่ในช่วงเวลาที่ขากรรไกรกำลังเจริญเติบโต การจัดฟันในเด็กต้องบอกว่าได้ผลดีมากกว่าการจัดฟันตอนโตด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนคงมองว่าการจัดฟันในเด็กนั้น ยังไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แต่หารู้ไม่ว่าการจัดฟันในเด็กนั้น มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพต่อการใช้งานของเด็กในวัยนี้มาก เพราะจะช่วยทำให้เด็กมีฟันที่สวยงาม มีรอยยิ้มที่มั่นใจและสดใสสมวัย

       
สำหรับใครที่ต้องการให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กสามารถติดต่อขอรับแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจึงทำให้บุตรหลานของท่านมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้แน่นอน ซึ่งวันนี้คลินิกจะมาพูดถึงขั้นตอนการจัดฟันในเด็ก เพ่อที่จะเป็นแนวทางให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากจะให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาฟันให้กับบุตรหลานของท่าน


สำหรับขั้นตอนการจัดฟันในเด็กนั้น อย่างแรกเลยคือ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจช่องปากกับทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อที่จะได้ให้ทันตแพทย์ทำการประเมินช่องปากในเบื้องต้น เพื่อวางแผนการรักษา จากนั้นก็ทำการพิมพ์ปากเพื่อสร้างแบบจำลองฟัน ทั้งที่เป็นแบบปูนหรือแบบดิจิตอล เพื่อใช้วิเคราะห์ วินิจฉัย และวางแผนการรักษาในขั้นต่อไป ในขั้นตอนต่อไป พ่อแม่ผู้ปกครองก็จะทำการพูดคุยในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก โดยทันตแพทย์จะทำการอธิบายถึงปัญหาของฟันของเด็ก ให้ผู้ปกครองเข้าใจ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดเครื่องมือการจัดฟัน โดยการจัดฟันในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี อาจติดเครื่องมือแค่บางซี่ หรือติดหมดทุกซี่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับระดับความผิดปกติ ขึ้นอยู่กับแผนการรักษา


ซึ่งเด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ซึ่งเครื่องมือการจัดฟัน ทันตแพทย์จัดฟันจะนำเครื่องมือเหล็กชิ้นเล็กๆ ไปติดบนฟัน โดยใช้กาวชนิดพิเศษ จากนั้นนำเครื่องมือที่อยู่บนฟันทุกซี่ จะถูกร้อยเข้าหากันด้วยลวด เด็กๆสามารถเลือกสียางเพื่อมัดเครื่องมือเข้ากับลวด โยทันตแพทย์จะคอยๆ ปรับเครื่องมือเพื่อเรียงฟันของเราให้สวย ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนการจัดฟันในเด็ก และภายหลังจากการจัดฟันหรือติดตั้งเครื่องมือการจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กๆควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาดอยู่เสมอ

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถปรึกษาทันตแพทย์ที่คลินิกได้ ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการจัดฟันในเด็กมากอย่างยาวนาน สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้องแน่นอน เพราะเราอยากให้เด็กทุกคนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและะฟัน เพื่อที่จะได้มีฟันที่แข็งแรง มีรอยยิ้มที่สดใส มั่นใจมากยิ่งขึ้น

13
ก่อนติดตั้งผ้ากันไฟ ต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง

ก่อนติดตั้งผ้ากันไฟ ควรเตรียมความพร้อมในหลายด้าน เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดังนี้:


1. การประเมินความเสี่ยงและกำหนดจุดติดตั้ง

วิเคราะห์ความเสี่ยง: ประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ในบริเวณต่างๆ ของอาคารหรือโรงงาน เพื่อกำหนดจุดติดตั้งผ้ากันไฟที่เหมาะสม
กำหนดจุดติดตั้ง: เลือกตำแหน่งติดตั้งที่เข้าถึงได้ง่ายและครอบคลุมบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องครัว ห้องเครื่องจักร หรือบริเวณที่มีสารไวไฟ
วัดขนาดพื้นที่: วัดขนาดพื้นที่ที่จะติดตั้งผ้ากันไฟ เพื่อเลือกขนาดผ้ากันไฟที่เหมาะสม


2. การเลือกผ้ากันไฟที่เหมาะสม

ประเภทของวัสดุ: เลือกผ้ากันไฟที่ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนและไม่ลามไฟ เช่น ผ้าใยแก้ว ผ้าซิลิกา หรือผ้าเคฟลาร์
คุณสมบัติเพิ่มเติม: พิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การกันน้ำ การกันสารเคมี หรือการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขนาดและรูปแบบ: เลือกขนาดและรูปแบบของผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ผ้าผืน ผ้าห่ม หรือผ้ากันเปื้อน


3. การเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือ

อุปกรณ์ติดตั้ง: เตรียมอุปกรณ์ติดตั้ง เช่น ตะขอ สกรู หรืออุปกรณ์ยึดอื่นๆ ให้พร้อมใช้งาน
เครื่องมือช่าง: เตรียมเครื่องมือช่างที่จำเป็น เช่น สว่าน ค้อน หรือไขควง
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE): เตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ แว่นตา หรือหน้ากาก เพื่อป้องกันอันตรายจากการติดตั้ง


4. การเตรียมพื้นที่ติดตั้ง

ทำความสะอาดพื้นที่: ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะติดตั้งผ้ากันไฟให้ปราศจากสิ่งกีดขวาง
ตรวจสอบความแข็งแรง: ตรวจสอบความแข็งแรงของผนังหรือเพดานที่จะติดตั้งผ้ากันไฟ
กำหนดตำแหน่งติดตั้ง: ทำเครื่องหมายตำแหน่งที่จะติดตั้งผ้ากันไฟให้ชัดเจน


5. การฝึกอบรมและการวางแผน

ฝึกอบรมการใช้งาน: ฝึกอบรมพนักงานหรือผู้อยู่อาศัยให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานผ้ากันไฟ
วางแผนการอพยพ: วางแผนการอพยพในกรณีเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ และกำหนดจุดรวมพล
ตรวจสอบและบำรุงรักษา: วางแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษาผ้ากันไฟอย่างสม่ำเสมอ


ข้อควรระวัง
ควรติดตั้งผ้ากันไฟตามคำแนะนำของผู้ผลิตและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง
ควรตรวจสอบผ้ากันไฟเป็นประจำ เพื่อหารอยชำรุดหรือความเสียหาย
ควรฝึกซ้อมการใช้ผ้ากันไฟ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

14
บริหารจัดการอาคาร: ข้อควรระวังในการติดตั้งกล้องวงจรปิด

การติดกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจดูทรัพย์สินหรือสถานที่ของเรานั้น ถือว่าได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถติดตั้งได้ง่าย แถมยังหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพงอีกด้วย ซึ่งข้อดีหลักๆ ของการติดตั้งกล้องวงจรปิดเลยก็เพื่อป้องกันการเกิดการโจรกรรม เพราะเป็นตัวช่วยป้องกันการกระทำผิดได้ในเบื้องต้น หากมีกล้อวงจรปิดจับภาพอยู่อาจจะช่วยยับยั้งเหตุได้ ทั้งยัง ป้องกันเหตุร้ายในบ้านได้อีกด้วย ยิ่งถ้าหากบ้านไหนมีเด็กหรือผู้สูงอายุ เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน หรือหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ก็จะช่วยทำให้เราสามารถดูกล้องได้จากทุกที่ ซึ่งอาจช่วยให้เรารู้ตัวเร็วและระงับเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ทันท่วงที ซึ่งถือว่าการติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น จะช่วยสร้างความสบายใจให้กับเจ้าของทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อที่จะได้ความคุ้มค่าในการใช้งาน และดีต่อจุดมุ่งหมายของเราในการใช้ แต่ในขณะเดียวกัน การติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น แม้จะมีประโยชน์ต่อทรัพย์สินของเรา แต่ก็ยังมีข้อเสียและข้อความระวังในการติดตั้งเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของข้อควรระวังในการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนที่สนใจอยากจะติดตั้งกล้องวงจรปิด

 
ต้องที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น สิ่งแรกที่ทึกคนจะต้องคำนึงก่อนก็คือเรื่องของปัญหาความเป็นส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดอาจนำไปสู่ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องมุมกล้อง หากติดตั้งที่บริเวณบ้านตัวเองก็ควรติดในมุมที่ไม่ส่องไปยังบ้านของเพื่อนบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังต้องมีเรื่องของรายจ่ายเพิ่มขึ้นมา เพราะการเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น ไม่ได้จบเพียงแค่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อกล้องและค่าช่างที่มาติดตั้งเพียงเท่านั้น เพราะถ้าหากกล้องเสียหรือมีปัญหาก็จะมีค่าซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นมา


แต่ถ้าหากเราเลือกบริการของบริษัทที่รับติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีบริการหลังการขายก็จะช่วยลดเรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้เพราะมีการรับประกันต่างๆได้ ซึ่งไม่ต้องมานั่งกังวลในปัญหาข้อนี้ และสำหรับข้อควรระวังในการติดตั้งกล้อง อันดับแรกเราจะต้องคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยในทรัพย์สินของเรา แม้กระทั่งในขั้นตอนของการติดตั้งกล้อง เราจะต้องเลือกบริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้ เพราะช่างที่ติดตั้งให้เรานั้นจะรู้รหัสผ่านในการเข้าดูกล้องวงจรปิดของเรา แม้ว่าเราก็สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังให้ดีเช่นกัน และข้อควรระวังอีกประการหนึ่งก็คือ แม้ว่าเราจะเป็นเจ้าของกล้องวงจรปิดก็ตาม แต่เราก็ไม่สามารถนำภาพของบุคคลไปเผยแพร่ต่อที่สาธารณะได้ ถ้าหากภาพนั้นยังไม่ได้รับการยินยอมจากบุคคลที่อยู่ในภาพ


ซึ่งต้องระมัดระวังในเรื่องของการเกิดคดีความด้วย อย่างไรก็ตาม ในการเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิด เราก็ต้องชั่งใจดูว่า มีข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังอะไรบ้าง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิดได้พอสมควร แต่โดยรวมแล้วหากพิจารณาดีๆ การติดตั้งกล้องวงจรปิดล้วนเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคมรอบข้างอยู่ไม่น้อย เพราะจะช่วยให้ทรัพย์สินของเรามีความปลอดภัย แถมยังสร้างความสะดวกสบายใจ เวลาที่เราไม่ได้อยู่บ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ติดตั้งในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ทั่วถึงก็จะเป้นผลดีต่อทรัพย์สินของเราเอง

 
หากสนใจจะติดตั้งกล้องวงจรปิด สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้เพราะเราเป็นผู้ให้บริการในเรื่องของความปลอดภัยของอาคารบ้านเรือน มีบริการติดตั้งระบบต่างๆภายในที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าต้นกำลังและระบบจ่ายไฟฟ้าภายในอาคาร ระบบสุขาภิบาล และระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบปรับอากาศ และหมุนเวียนอากาศ ระบบงานบำรุงรักษาโครงสร้างอาคาร ระบบป้องกันเพลิง และระบบสื่อสาร และกล้องวงจรปิด แถมยังสามารถวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารที่มีประสิทธิภาพ และอยู่ในงบประมาณที่สมเหตุสมผล ภายใต้ความปลอดภัยเพื่อให้ลูกค้ามีความสบายใจ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด แถมยังมีบริการดูแล ซ่อมบำรุงให้ตามระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย

15
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: หลอดลมฝอยอักเสบ (Bronchiolitis)

หลอดลมฝอยอักเสบ เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของทางเดินหายใจส่วนล่างที่พบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี พบมากในช่วงอายุ 2-8 เดือน พบได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบมากในฤดูฝน พบได้บ่อยในทารกที่มีมารดาสูบบุหรี่ พบน้อยในทารกที่กินนมมารดา

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด ที่สำคัญคือ กลุ่มอาร์เอสวี (respiratory syncytial virus/RSV) ซึ่งทำให้เกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็ก* เชื้อนี้สามารถติดต่อแบบเดียวกับไข้หวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสัมผัสผ่านวัตถุหรือสิ่งของต่าง ๆ เชื้อมักจะแพร่กระจายลงไปที่หลอดลมฝอย (bronchioles) ทำให้เยื่อบุผิวอักเสบบวม และหลั่งเมือก (เสมหะ) ออกมามาก เกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ มีอาการไอและหายใจหอบ

ระยะฟักตัว (สำหรับการติดเชื้ออาร์เอสวี) 2-5 วัน

* เชื้อนี้ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในคนทุกวัย การติดเชื้อครั้งแรกเกิดในเด็กเล็ก มักจะรุนแรง หลังจากนั้นสามารถติดเชื้อซ้ำอีก ในเด็กอายุมากกว่า 3 ปี และผู้ใหญ่ การติดเชื้อมักจำกัดอยู่ในทางเดินหายใจส่วนต้น กลายเป็นเพียงไข้หวัด


อาการ

แรกเริ่มอาการแบบไข้หวัด คือ ไข้ น้ำมูกไหล และไอ 2-5 วันต่อมาเด็กจะมีอาการไอรุนแรง และหายใจหอบ มีเสียงดังวี้ด เด็กจะมีอาการซึม กระสับกระส่าย ไม่ยอมดูดนมหรือกินอาหาร บางรายอาจมีอาการอาเจียนหลังไอ อาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือไม่มีก็ได้ ในรายที่หอบมากมักมีอาการปากเขียว


ภาวะแทรกซ้อน

อาจเกิดภาวะขาดน้ำ ปอดอักเสบ ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ป่วย ภาวะปอดแฟบ (atelectasis) จากการอุดกั้นของหลอดลม

บางรายอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจวาย

ที่ร้ายแรง คือ กลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory distress syndrome/ARDS) ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้

ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง มักเกิดกับทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกอายุต่ำกว่า 3 เดือน มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น เอดส์) โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือโรคทางปอดเรื้อรัง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

มักตรวจพบไข้ 38-39 องศาเซลเซียส บางรายอาจไม่มีไข้

รายที่เป็นรุนแรงจะพบอาการหายใจเร็ว (มากกว่า 50-60 ครั้ง/นาที) ชีพจรเต้นเร็ว ซี่โครงและลิ้นปี่บุ๋ม ปากเขียว พบภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ตาลึก กระหม่อมบุ๋ม ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น

การเคาะปอดมีเสียงโปร่ง (hyperresonant) การฟังปอดได้ยินเสียงวี้ด (wheezing) กระจายทั่วไป เสียงหายใจออกยาวกว่าปกติ และอาจมีเสียงกรอบแกรบ (crepitation)

บางรายอาจตรวจพบหูชั้นกลางอักเสบร่วมด้วย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการเอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ทดสอบทางน้ำเหลือง (เช่น ELISA) เพื่อพิสูจน์เชื้อต้นเหตุ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์รับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยให้การรักษาตามอาการ และการรักษาแบบประคับประคอง เช่น ให้ยาลดไข้ ให้ออกซิเจน น้ำเกลือ (ต้องระวังอย่าให้มากเกิน) ใช้เครื่องดูดเสมหะ ในรายที่หายใจลำบากอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

บางกรณี (เช่น มีประวัติโรคหืดในครอบครัว หรือเป็นโรคหืดมาก่อน) อาจให้ยาขยายหลอดลม

ส่วนยาปฏิชีวนะไม่จำเป็นต้องให้ ยกเว้นในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน หรือเป็นหูชั้นกลางอักเสบจากแบคทีเรียร่วมด้วย

ผลการรักษา ส่วนใหญ่จะหายได้ภายใน 7-10 วัน ในรายที่เป็นรุนแรงอาจเสียชีวิต พบว่ามีอัตราตายประมาณร้อยละ 2-3 ซึ่งส่วนใหญ่พบในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน

การดูแลตนเอง

เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี หากเป็นไข้หวัด แต่มีอาการหายใจหอบหรือหายใจเร็วกว่าปกติ (มากกว่า 50-60 ครั้ง/นาที) ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที

เมื่อตรวจพบว่าเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

ควรป้องกันไม่ให้เด็กเล็กติดเชื้อแบบเดียวกับการป้องกันไข้หวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรให้เด็กเล็กอยู่ห่างไกลจากผู้ที่เป็นไข้หวัด และไม่ควรพาเด็กเล็กไปในที่ที่มีผู้คนแออัด เช่น สถานบันเทิง งานมหรสพ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

ข้อแนะนำ

1. เด็กเล็กที่เป็นโรคนี้อาจมีอาการแสดงคล้ายโรคหืด ปอดอักเสบ และการสำลักสิ่งแปลกปลอม ควรซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วน อย่างไรก็ตาม หากพบเด็กมีอาการหายใจหอบ ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ควรรีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

2. เด็กที่เป็นโรคนี้มากกว่า 2 ครั้ง พบว่าอาจมีโอกาสเป็นโรคหืดในภายหลัง ซึ่งยังไม่สามารถอธิบายว่าทั้ง 2 โรคนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร ดังนั้น เมื่อหายจากโรคหลอดลมฝอยอักเสบแล้ว ควรติดตามดูอาการของเด็กต่อไปว่าอาจเป็นโรคหืดตามมาหรือไม่

3. เด็กเล็กที่เป็นไข้หวัด พ่อแม่ ผู้ปกครองเด็ก ควรเฝ้าดูอาการหายใจหอบอย่างใกล้ชิด โดยการนับการหายใจของเด็กขณะอยู่ที่บ้านบ่อย ๆ ถ้าพบว่ามีอัตราการหายใจเร็วกว่าปกติ (อายุ 0-2 เดือน หายใจมากกว่า 60 ครั้งต่อนาที อายุ 2 เดือน-1 ปี มากกว่า 50 ครั้งต่อนาที อายุ 1-5 ปี มากกว่า 40 ครั้งต่อนาที) เด็กอาจเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ ครู้ป ปอดอักเสบ หรือภาวะร้ายแรงอื่น ๆ ก็ควรรีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

หน้า: [1] 2


















กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ